rss

วางแผนสมัครและเรียนรามคำแหงให้จบเร็ว มีประสิทธิภาพ สบายและคุ้มค่าสูงสุด

เนื่องจากผมเป็นศิษย์เก่าราม ที่จบมาแล้วและเกรดดีมากเลยหล่ะ แต่ไม่อยากบอกเดี๋ยวหาว่าโม้ จะขอแชร์ประสบการณ์การเรียนสมัย ผมรหัส 41 มาให้ฟังนะครับ โดยที่จะแชร์นี้เป็นหลักทั่วๆไปสมัยผมอยู่นะครับและพูดถึงภาพรวมๆ ซึ่งขอเน้นย้ำก่อนว่าผมไม่ได้เป็นคนหัวดีอะไรมากมาย แต่ผมขยันและมักชอบวางแผนเท่านั้นเอง

1.วิชาพื้นฐาน (ส่วนใหญ่อยู่ปี 1 และปี 2 บางวิชา) ไม่จำเป็นต้องเข้าเรียน ถ้าคุณมีเวลาจำกัดหรือมีสิ่งสำคัญอื่นๆ ไปทำอย่างอื่นดีกว่า

2.วิชาพื้นฐานทั้งหลายอย่าซื้อหนังสืออ่าน ให้ซื้อชีทหน้ารามมาอ่าน เพราะว่าจะสรุปไว้ได้รวบรัดดี และมีเนื้อหาเฉพาะเนื้อๆเน้นๆ (เนื้อหาออกสอบ95%) ส่วนหนังสือเนื้อหาครบถ้วนก็จริงแต่น้ำก็เยอะมาก ถ้าอ่านหนังสือจะเสียเวลาโดยใช่เหตุ ยกเว้นว่าเป็นวิชาเอกพื้นฐาน ก็ควรซื้อหนังสือมาอ่านจะดีกว่า เพราะว่าถ้าเราทำความเข้าใจกับมันอย่างถ่องแท้และเรามีพื้นฐานแน่น จะทำให้การเรียนวิชาเอกระดับสูงๆขึ้นไปง่ายขึ้น (เล่นบอลแล้วเบสิคดี ก็จะพัฒนาต่อยอดได้ดีประมาณนั้น)

3.วิชาพื้นฐานเวลาจะสอบ ส่วนใหญ่จะเป็นข้อสอบช๊อย ให้คุณไปหาซื้อข้อสอบเก่าซัก 10 เทอม (ชีทเก่ามือสองหน้ารามมีขายมากมาย ราคาถูกๆ เล่มนึงจะมี 3 เทอม) มานั่งทำดู เชื่อเถอะว่า อย่างน้อย 85%ขึ้นไปข้อสอบจะเวียนอยู่ในนี้นี่แหล่ะ (ที่จริงผมว่า 90%เลยนะ) ส่วนวิชาที่ระดับสูงๆนั้น ถ้าหาข้อสอบเก่าๆมาได้ก็มักจะมีหลักการเดียวกันครับแม้จะเป็นข้อสอบเขียนก็ตาม

4.สิ่งสำคัญอย่างมากที่เด็กรามไม่ได้ทำกัน แต่สำหรับผมมองว่าเป็นสิ่งที่โคตรสำคัญสำหรับการทำเกรดให้ได้ดีๆคือ การเลือกวิชาการลงทะเบียนในแต่ละเทอม  สำหรับผมนั้น ผมจะให้ความสำคัญกับวันสอบของวิชานั้นๆ มากกว่าให้ความสำคัญว่าจะต้องเรียนอะไรเสียอีก เนื่องจากว่า  การลงทะเบียนแล้วมีระยะเวลาวันห่างของวันทีสอบแต่ละวิชามากพอ ก็จะทำให้เรามีเวลาอ่านหนังสือ(ชีท)วิชานั้นๆได้พอ และจะทำเกรดได้ดีนั่นเอง เช่น หากวิชายากๆก็มีระยะเวลาก่อนสอบนานหน่อย แต่ถ้าวิชาไหนง่าย ก็มีวันเว้นก่อนสอบไม่ต้องเยอะก็ได้เป็นต้น

5.จากข้อ 4 วิชาที่ลงทะเบียนเรียนนั้นไม่จำเป็นต้องลงตามคู่มือ (ยกเว้นวิชาที่บังคับให้ลงก่อนลงหลัง) ให้ดูว่าลงเรียนไหนก่อนและหลังแล้วจะมีเวลาอ่านหนังสือ และให้ดูสัดส่วนวิชาง่ายและวิชายากให้มีความสมดุลกัน

6.การลงทะเบียนเรียนกี่วิชาจึงจะเหมาะสม?  อันนี้แล้วแต่เทคนิคแต่ละคน แต่ที่สำคัญจะเปรียบเปรยให้ฟังว่า สมมติคุณมีเวลา 24 ชม. ถ้าคุณลง 8 วิชา  คุณจะใช้เวลา 1วิชา=3 ชม  แต่ถ้าคุณลงแค่ 6 วิชาคุณจะมีเวลา 24/6= 4 ชม  บางคนเห็นลงโคตรเยอะ แต่เวลาที่ทุ่มลงไปในการอ่านหนังสือมันไม่โฟกัสทำให้พากันฉุดทุกวิชาตกระนาว  บางทีถ้าลงน้อยแต่เน้นๆเก็บหมดเกรดดีๆ อาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ แต่ถ้าบางคนโคตรขยันไฟแรงก็ลงเยอะก็ได้ แต่ถ้าคนขี้เกียจแบบผม ผมลง6-7 วิชาเองนะ แต่เน้นทุกวิชา

7.วันสุดท้ายในการเรียนการสอนแต่ละวิชานั้นให้ขึ้นเรียนเพราะอาจารย์มักบอกใบ้ข้อสอบ หรืออย่างน้อยก็จะทราบแนวข้อสอบบ้าง

8.การจบ 3ปีครึ่งไม่ใช่เรื่องยากมากมายอะไร ถ้านับกันจริงๆคนที่เรียนอัดสุดๆ ตกก็ซ่อมได้ เรียนจริงๆ 2ปีครึ่งก็จบแล้ว (เคยนั่งนับอยู่)

9.เรียนรามถ้าเรียนแล้วสอบตก ในtranscript ตอนจบนั้นไม่โชว์ประวัติว่าเคยตก และถ้าได้ G เกินครึ่งก็สามารถทำเกียรตินิยมได้ด้วยนะ….นี่บอกเลย (โคตรดีอ่ะ)

10.เรียนรามถ้า รีเกรด, เรียนล่วงหน้าตั้งแต่ ม.ปลาย, เทียบโอนหน่วยกิตมา  ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ได้เกียรตินิยมเพราะมีในระเบียบมหาลัยชัดเจน (เทียบกับข้อ 9 แล้วก็แปลกดี)

11.ยืนยันนอนยันว่า การเรียนรามให้ได้เกรดดีๆ จบเร็วๆ ไม่จำเป็นต้องหัวดีมากมายอะไร เพราะวิชาที่เรียนของราม เท่าที่สังเกตเนื้อหาไม่ได้ลึกและทฤษฎีไม่ได้ยากมากอะไร (เทียบกับเพื่อนสมัยเรียนมาด้วยกันแล้วเรียนสาขาเดียวกันแต่ ม.อื่น) แต่ที่สำคัญคือคุณต้องขยัน มีความรับผิดชอบและมีวินัย

12.ถ้าถามผู้เขียนว่าแล้วทำไมระบบเป็นแบบนี้?   ให้คุณลองนึกดูนะว่า นศ.รามปีแรก มีคนเรียนมหาศาลขนาดไหน พอเค้ามีการสอบวิชาพื้นฐาน (เน้นว่าวิชาพื้นฐาน) 1 วิชา ใน 1 ปีเค้าสอบกันกี่ครั้ง    สอบเทอมหนึ่ง, สอบเทอมสอง, สอบซัมเมอร์, สอบซ่อมเทอมหนึ่ง, สอบซ่อมเทอมสองรวมซัมเมอร์ รวมแล้วปีนึงมีสอบ 5 ครั้ง  ลองนึกดูว่าปีนึงสอบถี่ขนาดนี้ อาจารย์คนไหนจะคิดข้อสอบเทอมละ 100 ข้อได้ทัน หากคุณเป็นอาจารย์ คุณก็ต้องออกข้อสอบแบบนี้ จริงไหม? เพราะไม่รู้จะเอาอะไรมาออกสอบแล้ว ไม่ได้ว่าอาจารย์ไม่ดี แต่สอบบ่อยและ นศ.มหาศาลขนาดนี้ ระบบการจัดการก็ต้องทำให้เหมาะสมกันไป

13.ภาพรวมๆ คนภายนอกที่มอง นศ.ราม กรณีถ้าไปสมัครงานหรือมีคนถามว่าจบจากไหนมา (ไม่นับทำธุรกิจส่วนตัว)

  • -หากจบ 3 ปีครึ่งและเกียรตินิยม= โห…เก่งว่ะโคตรเทพ พร้อมทำท่าทางตื่นเต้น (เค้ามองว่าคนจบรามได้ต้องรับผิดชอบและวินัยสูงโคตร แถมได้เกียรตินิยมอีกนี่ ความเท่ห์นี่ไม่น้อยกว่า ม. top ของไทยเลย)
  • -หากจบ 3 ปีครึ่ง = โหเก่งว่ะ (เค้าจะมองว่าเก่งและรับผิดชอบสูงมีวินัยดีมากๆ เพราะ รามเข้าง่ายออกยาก จบ 3 ปีครึ่งนี่ ทั้งเก่งและรับผิดชอบวินัยดี)
  • -จบ 4 ปี ตามกำหนด = เอ้อ ก็ดีนะ รับผิดชอบดี แต่ถ้าจบสาขาธรรมดามา หรือจบสาขาทั่วๆไป นี่ก็แย่อยู่ดีนะ เค้ามองว่าแค่มีปริญญาติดตัว ต้องพิสูจน์ตัวเองอีกเยอะ
  • -จบมากกว่า 4 ปี ถ้าไม่ใช่สาขาเชี่ยวชาญเฉพาะ นี่บอกเลยว่า คนทั่วไปมองไม่ดีเอามากๆ ทั้ง ม.ไม่ดังและไม่มีวินัย หัวก็ไม่ดีหรือเปล่าฯลฯ
Loading Facebook Comments ...